Thursday, October 11, 2007

สรุป Understanding

สิ่งที่ได้รับจากการเรียนวิชานี้ทำให้เราเป็นคนที่จะทำอะไรเราต้องคิดมากขึ้น ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเราจะทำอะไรเรามักไม่ค่อยจะคิดอะไรมากมาย คิดเพียงผิวเผิน ดูแต่เพียงเปลือกภายนอกที่มันแสดงออกมาเท่านั้น ไม่เคยมานั่งคิดลึกถึงตัวข้างในเปลือกเลย ไม่เคยมานั่งคืดถึงว่าทำไมมันเป็นอย่างนี้ และเพราะอะไรต้องเป็น ต้องทำเช่นนี้ หรือมีอะไรมาแอบแฝง บอกอะไรเรารึเปล่า แต่พอเราเรียนตัวนี้ ทำให้เวลาเราได้ดู หรือทำอะไร เราจะมองลึกเข้าไปอีกว่ามันจะสื่ออะไรกับเรา หรือมันจะหลอกอะไรเรา แต่เป็นคนที่คิดช้ามากหรือคิดอะไรที่มันคิดไม่ถึง มันเลยทำให้เราต้องดู ต้องคิดมากขึ้น อย่างตอนที่ดูโปสเตอร์ BABLE ตอนแรกๆ เราก็ไม่เข้าใจอะไร แต่พอพูดเราก็เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น ว่าทำไมเราต้องคิด ต้องมองอะไรลึกๆ เข้าไปอีก ตอนเรียนอันนี้เรารู้สึกสนุกมากพอถอดรหัสออกมาทีละอย่าง พอเรารู้ เออทำไมคนคิดคิดได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะโปสเตอร์ภาพที่เป็นแบบแบ่งเป็นสองฝั่ง แรกๆ เราก็ไม่รู้เห็นเป็นโปสเตอร์สื่อหนังธรรมดา แต่พอบอกถึงสิ่งที่เค้าอยากบอกก็ทำให้เรารู้สึกเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น เลยทำให้เราเกิดความเปลี่ยนแปลงในเวลาเราเห็นโปสเตอร์หนังเราจะดูรายละเอียด ภาพ การจัดวางต่างๆ มากขึ้นว่าอยากสื่ออะไร ทำไต้องภาพนี้ อักษรแบบนี้ แล้วทำไมต้องวางแบบนี้ มันทำให้เรารู้ถึงเนื้อหาของเรื่องคร่าวๆ ก่อนดูบ้าง เวลาดูเราก็อ๋อเป็นอย่างนี้เอง ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเออโปลเตอร์หนังก็เฉยๆ นอกจากนี้การที่เราคิดอะไรมากข้น มองบางอย่างให้มันลึกเข้าไปมันทำให้เราดูเป็นคนที่คิดเป็น เวลาทำอะไรเราก้จะทำอะไรโดยมีสติ ถึงแม้ว่าในตอนนีเราจะยังคิดช้า ยังคิดอะไรที่ยังไม่ถึงตัวข้างในจนถึงตัวแก่นของมัน แต่วิชานี้ต้องดู ต้องหาประสบการณ์มาก คิดให้มันมากๆ สิ่งเหล่านี้คงทำให้เราเป็นคนที่คิดเป็นมากขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้มันจะต้องสะสมไปเรื่อยๆ

นักการตลาดที่ดี

สำหรับการเป็นนักการตลาดที่ดีของตัวเองก็คือ การที่เราสามารถนำการตลาดที่เราได้เรียนมามาช่วยพ่อแม่ได้ คือทำให้ธุรกิจของที่บ้านพัฒนา และสามารถทำให้การค้าขายสินค้าดีขึ้นได้ และการที่เราเลือกเรียนทางด้านการตลาดเพราะว่ามันเป็นข้อตกลงหนึ่งที่เราได้ให้ไว้กับพ่อ ที่เราให้ไว้ว่าถ้าเราได้เรียนคณะศิลปกรรมคณะที่เราเลือกเรียน เราจะยอมเรียนในด้านการตลาดตามสัญญาที่ให้ไว้ การที่เรายอมทำตามนั้นเพราะเราอยากให้เค้าภูมิใจในตัวเราบ้าง เพราะเหมือนที่ผ่านมาเราทำตัวเกเรเกินไป ไม่เหมือนพวกพี่ๆ เราก็อยากจะทำในสิ่งที่เค้าอยากให้ทำบ้าง การเรียนต่อด้านนี้เราอยากเอาวิชาที่เรียนมาทำให้ที่บ้านดีขึ้นเพราะช่วงนี้ที่บ้านคนซื้อของน้อยลง เห็นเค้าเครียดๆ อยู่แต่บ้าน เปิดร้านขายของทุกวันตั้งแต่เช้า อาทิตย์ยังเปิด จนไม่ได้ไปเที่ยวไหน เลยอยากให้เค้าได้ไปเที่ยวบ้างเหมือนพ่อแม่คนอื่นบ้าง

Tuesday, October 2, 2007

อนาคต

ในอนาคตเมื่อเรียนจบวางแผนเอาไว้ว่าอาจจะเรียนต่อ แต่จะเรียนในด้านของการตลาด หรือไม่ก็ด้านบริหาร เพราะอยากเรียนในด้านอื่นดูบ้าง เพราะว่าพอเราได้เรียนด้านการออกแบบนี้มันรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่เราชอบแล้ว ตอนเราเข้ามาแรกๆ เราแค่รู้สึกว่าเราชอบวาดรูป และในช่วงแรกๆ ปี 1 ปี 2 มันยังมีวิชาที่เรายังรู้สึกว่าเราไปได้ เราชอบอยู่ ทั้งทฤษฎีสี หรือว่า drawing แต่พอรู้ว่าไม่ใช่มันก็ปี 3 แล้วมันก็เลยกลับตัวไม่ทัน ตอนแรกก็อยากย้ายคณะแต่ทางบ้านอยากให้เราเรียนให้จบ เพื่อนๆ ก็บอกว่าเราเรียนได้ ให้เรียนไปก่อน เราก็เลยพยายามเรียนต่อไป ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าไม่ชอบแต่เราก็ไม่ได้เกลียด เราก็เรียนได้ แต่คงไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ชอบด้านนี้คงทำงานเกี่ยวกับด้านนี้ ส่วนตัวเองคงจะเรียนด้านนี้ให้จบ และเรียนในด้านอื่น ที่เราเลือกเรียนด้านการตลาด หรือไม่ก็บริหารเพราะเราชอบเกี่ยวกับวิชาการ หรือตัวเลข เลยอยากลองเข้าไปเรียนรู้ดู และเนื่องจากทางบ้านมีอาชีพค้าขาย เค้าก็อยากให้เราเรียนบริหารเพื่อมาช่วยทางบ้าน เราก็คงเรียนทางด้านบริหาร การตลาดและนำความรู้ในด้านการออกแบบ กระบวนความคิดในการทำงานมาช่วยกันได้ และก็คงจะเรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม เพราะสมัยนี้เน้นคนที่เก่งภาษา อย่างน้อยการรับเข้าทำงานเค้าจะดูภาษาเป็นอันดับต้นๆ รู้ตัวเองดีว่าภาษาอังกฤษยังไม่ดี หลังจากจบตรีก็คงจะหาสิ่งที่เรารู้สึกว่าชอบ เรียนแล้วสนุก แต่ว่าเรียนทางด้านออกแบบนี้เราก็ไม่ทิ้งนะ มันทำให้เรารู้อะไรเยอะ การทำงานต้องคิด อาจนำความรู้นี้ไปใช้กับที่บ้าน อยากทำให้ร้านที่บ้านดูเป็นระบบระเบียบมากกว่านี้ทั้งตัวสินค้า การนำเสนอสินค้าเวลาขาย รวมทั้งรูปแบบการจัดวางของสินค้า เราอยากทำให้ร้านที่บ้านดูดี ดูทันสมัยขึ้นตามยุคสมัยนี้ คิดว่าถ้าเราจบแล้วก็คงเรียนโทต่อ เรียนภาษา แล้วก็คงช่วยงานที่บ้านไปก่อน อยากจะลองค้นหาในสิ่งที่ตัวเองรักและชอบที่จะอยู่และทำกับมันให้ได้ก่อน ถ้าหาพบแล้วก็คงจะหางานทำข้างนอก คงไม่ทำที่บ้านไปตลอด อยากจะลองหาประสบการณ์ดู อยากหางาน หาเงินให้พ่อแม่ได้ใช้บ้าง อยากให้เค้าได้ไปเที่ยวเหมือนคนอื่น พวกเค้าไม่เคยได้ไปไหนอยู่แต่บ้านขายของ เราเลยอยากชาวยงานทางบ้านให้ลงตัวก่อนแล้วคงหางานข้างนอกทำ แต่ทั้งนี้ก็คงอยู่ที่ดวงกับโชคของตัวเองด้วยว่าจะเป็นยังไง เราไม่สามารถคาดเดาได้